ข้อมูลจากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Report Q1 2567 เผยว่า ‘ที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท’ มีจำนวนมากที่สุดในตลาดด้วยสัดส่วน 30% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมดทั่วประเทศ จำนวนมากที่สุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคระดับล่างยังคงไม่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะดูดซับอุปทานในตลาดไปได้

สอดคล้องกับ ‘ข้อมูลของเครดิตบูโร’ ที่พบว่าหนี้เสียจากสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้น ผู้ซื้อระดับล่างเริ่มผ่อนบ้านไม่ไหวจากปัญหาค่าครองชีพที่แพงขึ้น โดยประมาณ 60-70% ของหนี้ที่กำลังจะเสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท มีปัญหามาจากคนที่ผ่อนบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ ‘ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์’ ยังต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุมาจาก
– ภาวะเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวตามคาด
– อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
– ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น
– กระทบภาวะหนี้ครัวเรือน
– กระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค

ทำให้ผู้บริโภคชะลอแผนซื้อบ้านออกไปก่อน ภาพรวมความต้องการซื้อบ้านทั่วประเทศในไตรมาสล่าสุดลดลง 14% (QoQ) (ลดลง 25% YoY) และลดลงทุกประเภทที่อยู่อาศัย สวนทาง ‘ภาพรวมราคาที่อยู่อาศัย’ ทั่วประเทศที่ปรับขึ้นตามต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น กลายเป็นอุปสรรคต่อกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้

[ ตลาดอสังหาไม่สดใส แนะผู้บริโภครักษาวินัยการเงิน รับมือดอกเบี้ย ]

‘วิทยา อภิรักษ์วิริยะ’ ผู้จัดการทั่วไป Think of Living และ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) อธิบายว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้อาจไม่ได้สดใสเท่าไร เพราะยังมีปัจจัยท้าทายจากปีก่อน ทำให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ต้องชะลอการซื้อบ้านไปก่อน

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยในระยะถัดไปน่าจะมีแนวโน้มลดลง และจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยและผู้กำลังผ่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ มองว่าผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างควรต้องรักษาวินัยทางการเงินอย่างมาก นอกจากจะมีแผนรับมือในกรณีที่ดอกเบี้ยไม่ได้ปรับลดลงแล้ว ควรมีแผนฉุกเฉินในกรณีที่ดอกเบี้ยเข้าสู่ยุคขาขึ้นอีกครั้งด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยโดยที่ไม่ขาดสภาพคล่อง เพราะธนาคารยังคงมีมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสียที่อาจตามมา

[ มีปัจจัยบวกระยะยาว ท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขอมาตรการรัฐกระตุ้น ]

แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้แต่คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีปัจจัยบวกในระยะยาว เนื่องจากความต้องการซื้อและความต้องการเช่ายังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันก่อนโควิด สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถถือครอง-หวังผลในระยะยาวได้

นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ของธนาคารโลกเผยว่า ‘การบริโภคภาคเอกชน’ และ ‘การท่องเที่ยว’ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 หมายความว่าอัตราค่าเช่าและราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงและภูมิภาคสำคัญที่ดึงดูดด้านการท่องเที่ยวจะมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ

“อีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลานี้คือมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการทุกคนรอคอย เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มเติม รวมทั้งไม่มีนโยบายในการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ที่ชัดเจน คาดว่าหากภาครัฐมีการออกมาตรการอื่น ๆ ที่โดดเด่นเพียงพอจะดึงดูดใจผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง และส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาฯ เติบโตมากขึ้นตามไปด้วย”

cr. https://workpointtoday.com/npl-in-house-dept-from-under-3-million-house/

ARE YOU INTERESTED

IT'S TIME TO DISCOVER

THE BUILDING

BUILDING LOCATION

Motivation can take you far, but it can take you even further if you first find your vision. Your vision will motivate and guide you on

ADDRESS:

Logan Barker, 865 Oak Boulevard, Elk Grove, Vermont 95184
Phone:

012-345-6789

E-mail:

email.support@maisonco.com

CONTACT AGENT

William Jacobs

CERTIFIED AGENT

ENQUIRE

©trangvillage. All rights reserved.