Cr. https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/63
ความฝันในการอยากมีบ้านสักหลัง เป็นเจ้าของคอนโดสักห้องนั้น ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากทำให้เป็นจริงให้ได้
แต่ทั้งนี้ ก็ต้องผ่านกระบวนการวางแผน ก่อนตัดสินใจอย่างรอบคอบด้วย เพราะมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงไม่น้อย โดยหากด่วนตัดสินใจเร็วเกินไป ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ภายหลังได้ ยิ่งกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 แบบนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งควรต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆ ปัจจัยให้ถี่ถ้วน โดยสิ่งที่ควรต้องใส่ใจและคำนึงถึง ก่อนตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ในยุคโควิดนั้น ได้แก่- วัตถุประสงค์ในการซื้อต้องชัดเจนแน่นอนอันดับแรกสุดเลย เราจำเป็นต้องถามตัวเองให้แน่ชัดเสียก่อนว่า จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือ ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่ากันแน่ เพราะวัตถุประสงค์ในการซื้อที่แตกต่างกัน ก็นำมาซึ่งภาระที่แตกต่างกัน โดยหากเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัย บ้านหรือคอนโดที่เราซื้อมาจะมีสถานะกลายเป็น “หนี้สิน” ที่เราต้องผ่อนจ่ายทุกเดือน ซึ่งก็ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะผ่อนไม่ไหวได้ ในขณะที่หากเป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า แม้บ้านหรือคอนโดนั้นจะมีสถานะเป็น “สินทรัพย์” ที่ทำให้เรามีรายได้จากการปล่อยเช่า หรือขายเพื่อรับส่วนต่าง แต่ในสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดนั้น ก็ต้องเผื่อวางแผนสำหรับการหาผู้เช่าไม่ได้ หรือการขายไม่ได้ราคาอย่างที่ตั้งใจไว้ด้วย ซึ่งระยะเวลาของการรอผู้เช่าหรือรอปล่อยขายนั้น เราก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายแต่เพียงผู้เดียว จึงต้องตอบตัวเองให้ชัดว่า อยากซื้อบ้านเพื่ออะไรกันแน่ เพื่อวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม
- กำหนดวันตัดสินใจซื้อ เพื่อวางแผนการเงินให้พร้อมเมื่อแน่ใจแล้วว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือเพื่อลงทุน ลำดับต่อไปที่ต้องพิจารณาก็คือการถามตัวเองว่า “จะซื้อเมื่อไร?” เพื่อวางแผนในการทำ Statement หรือ รายการเดินบัญชีให้พร้อมต่อการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร ในขณะเดียวกันก็ต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบ ทั้งค่าผ่อนชำระรายเดือน ค่าวางเงินดาวน์ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายในการซื้ออสังหาฯ อีกหลายรายการ เพราะหากเราไม่วางแผนการเงิน ไม่กำหนดวันซื้อให้แน่ชัดแล้ว ในการทำ Statement และการเตรียมเอกสารเพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับธนาคาร ก็อาจไม่สมบูรณ์พอที่จะได้รับการอนุมัติ และทำให้ไม่สามารถซื้อได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ
- ต้องแน่ใจในความมั่นคงทางอาชีพของตัวเองเพราะเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดแล้วนั้น เราจะมีภาระผูกพันไปอีกหลาย 10 ปี ซึ่งแม้จะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ก็ยังต้องเสี่ยงกับช่วงระยะเวลาที่อาจจะไม่มีผู้เช่า และเราต้องจ่ายค่าเช่าเองก่อน ดังนั้น เราจึงต้องมั่นใจว่าอาชีพการงานที่ทำอยู่ในตอนนี้จะมั่นคงมากพอเป็นแหล่งรายได้ให้เรามีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านด้วย มิเช่นนั้นแล้วหากเกิดวิกฤตต้องเปลี่ยนงาน หรือว่างงาน ก็จะทำให้ไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระได้ ซึ่งกับช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้ หลายๆ บริษัท หลายๆ อุตสาหกรรมธุรกิจ ก็มีแนวโน้มที่อาจเกิดปัญหา จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการงานของเราได้ ดังนั้น จึงต้องสำรวจความพร้อมด้านนี้ให้ดี ให้มั่นใจมากที่สุด เพื่อการซื้ออสังหาฯ ที่ราบรื่นและเกิดปัญหาน้อยที่สุด
- เลือกทำเลที่ดีที่สุดในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดนั้น ทำให้ราคาบ้านและคอนโดในหลายๆ พื้นที่ลดต่ำลง เป็นเหตุให้เราอาจเลือกตัดสินใจซื้อจากราคาเป็นหลัก โดยไม่ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมของทำเล จนนำไปสู่ปัญหาการได้อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ตอบโจทย์ตามความต้องการในภายหลังได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อลงทุน ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงทำเลให้รอบคอบ ให้ตอบโจทย์กับสไตล์การใช้ชีวิตของตัวเราเองมากที่สุดในแง่ของการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายผู้เช่ามากที่สุด เป็นทำเลที่มีอนาคตเติบโตได้มากที่สุดในแง่ของการซื้อเพื่อลงทุน เพื่อให้ในระยะยาวแล้วเราจะใช้ประโยชน์และทำกำไรจากการตัดสินใจซื้อในครั้งนี้ให้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
- พิจารณามาตรการรัฐและเลือกโปรโมชั่นที่คุ้มค่าท่ามกลางวิกฤตโควิด ก็ยังมีโอกาสสำหรับคนอยากมีบ้านซ่อนอยู่ โดยทางภาครัฐได้ออกมาตรการลดค่าโอนและค่าจดจำนองลงเหลือเพียง 0.01% ซึ่งมีผลทำให้จากเดิมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ล้านละ 30,000 บาท จะเหลือต้องจ่ายเพียงแค่ล้านละ 200 บาทเท่านั้น โดยระยะเวลาสำหรับมาตรการดังกล่าวจะมีผลถึง 31 ธันวาคม 2564 นั่นหมายความว่าหากจะตัดสินใจซื้ออสังหาฯ จริงๆ ก็ควรซื้อและโอนให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564 นี้ เพื่อให้ได้ส่วนลดค่าใช้จ่ายมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ควรพิจารณาเลือกโปรโมชั่นในการซื้อบ้านและคอนโดจากผู้ประกอบการต่างๆ ให้คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด โดยในช่วงสถานการณ์โควิดนั้นจะมีโปรโมชั่นส่วนลด ของแถมต่างๆ ให้เลือกมากมาย ซึ่งเราก็ควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด เช่นหากเป็นการซื้อเพื่ออยู่เอง เรามีเฟอร์นิเจอร์เดิมอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกรับโปรโมชั่นของแถม แต่เลือกเป็นโปรส่วนลดแทนจะคุ้มค่ากว่า แต่หากเป็นการซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือลงทุน การเลือกโปรที่มีเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมอยู่เลย และมีการผ่อนให้ก่อน ก็ถือว่าตอบโจทย์มากกว่าโปรส่วนลด