สำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่ ไม่ว่าจะเพิ่งซื้อบ้าน หรือคอนโด ก็มักจะต้องเริ่มคิดว่า ห้องโล่งๆ นี้จะตกแต่งอย่างไรดี จะใส่เฟอร์นิเจอร์ไว้ตรงไหนบ้าง ถ้าจะเปรียบห้องโล่งๆ เหมือนกระดาษเปล่าหรืองานผ้าใบศิลปะชิ้นหนึ่งเลยก็ไม่แปลก เพราะต่างก็เป็นโอกาสและความท้าทายที่จะได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลงไป ด้วยวิธีมากมายที่จะเติมแต่งห้องโล่งๆ เราควรเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้มีคำแนะนำดีๆ เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับบ้าน/คอนโด ได้อย่างง่ายดายเลยหละ มาเริ่มอ่านไปพร้อมๆกัน

ความน่าอยู่ของบ้านคุณจะลดลงทันทีหากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณถูกจัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ และไม่มีการวางแผนมาก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทำ คือวางแผนการจัดวางของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และคำนึงถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในห้องนั้นด้วย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

จัดเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบ

ความน่าอยู่ของบ้านคุณจะลดลงทันทีหากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณถูกจัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ และไม่มีการวางแผนมาก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทำ คือวางแผนการจัดวางของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และคำนึงถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในห้องนั้นด้วย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

รวบรวมกฎพื้นฐานในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ มาทั้งหมด 8 ข้อ เพื่อช่วยคุณให้รู้ถึงตำแหน่งว่าตรงไหนที่ควรวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหน หรือ ตรงไหนไม่ควรวาง และยังสามารถช่วยให้คุณสร้างลุคที่สวยงามสำหรับห้องของคุณได้ แบบไม่ยากและทำตามได้ง่ายๆ มาดูกันเลย

1) คิดว่า คุณอยากจะใช้งานห้องนี้อย่างไร
ให้คิดสะก่อนว่าคุณจะใช้ห้องนี้ทำอะไร มีคนกี่คนจะใช้ห้องนี้ คำถามเหล่านี้ช่วยกำหนดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ หรืออุปกรณ์ประเภทไหนบ้างที่จำเป็น และต้องมีจำนวนที่นั่งเท่าไรในห้อง
2) ตัดสินใจว่าอะไรคือจุดโฟกัสของห้อง
กำหนดจุดโฟกัสของห้องไว้เลย ไม่ว่าจะเป็น วิวสวยๆ นอกหน้าต่าง ทีวี งานศิลปะ และปรับเฟอรนิเจอร์ ตามจุดโฟกัสนั้นๆ ถ้าคุณวางแผนที่ดูทีวีในห้อง ระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างที่ตั้งทีวีและที่นั่ง คือ 3 เท่าของขาดทีวี ที่วัดแนวทแยงมุม เช่น ทีวี 40 นิ้ว ก็ควรอยู่ห่างจากโซฟาที่ดูทีวีระยะ 120 นิ้ว (ประมาณ 3 เมตร) นั่นเอง

3) เริ่มจากของชิ้นสำคัญ
วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ในห้องก่อน เช่น เซตโซฟาในห้องนั่งเล่น หรือ เตียงในห้องนอนโดยส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็ควรที่จะหันไปยังจุดโฟกัสของห้อง เก้าอี้ไม่ควรอยู่ไกลกันเกิน 2.4 เมตร ถ้าคุณต้องการให้สามารถที่จะนั่งพูดคุยกันได้สะดวก เว้นเสียแต่ว่าห้องมีขนาดที่เล็กมาก พยายามเลี่ยงการวางทุกอย่างชนกำแพงไปหมด

4) คิดถึงความสมมาตร
ห้องที่มีความเป็นทางการสูง หรือต้องการให้ดูทางการ น่าเชื่อถือหน่อย ให้จัดวางในลักษณะที่เป็นสมมาตรก็จะเป็นการจัดที่เข้ากับห้องลักษณะนี้ที่สุด เพราะทางขาดความสมมาตรในห้อง ก็อาจจะทำให้ห้องดูเล่นๆ เด็กๆ มากกว่า

5) สร้างทางเดินให้ไหลลื่น
ลองคิดถึงการเดินเหินในห้องนี้ เมื่อเราพูดถึงทางเดินในห้อง โดยทั่วไปคือทางเดินระหว่างประตู หรือทางเดินเข้าออกของห้อง ถ้าเป็นไปได้ อย่าวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ขวางทางเดินที่ทำให้การเดินในห้องลำบาก เว้นพื้นที่อย่างน้องสัก 75 – 120 เซนติเมตร ในพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมามาก และอย่างน้อย 60 เซนติเมตร สำหรับทางเดินย่อยๆ ลองวางตำแหน่งทางเดิน รอบการนั่งคุยเป็นกลุ่ม ไม่ใช่ตัดกลางวง คุณอาจพิจาณาวางตำแหน่งการนั่งพูดคุยออกเป็นกลุ่มเล็กๆ สองกลุ่ม แทนที่จะเป็นกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มเดียวก็ได้

6) ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย
การผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในห้อง ช่วยให้สายตาของคุณต้องขยับขึ้นลงในการมองรอบๆ ห้อง สร้างสมดุลระหว่างของชิ้นใหญ่หรือเฟอร์นิเจอร์สูงๆ ด้วยการเติมของที่ช่วยเพิ่มความสูงให้ใกล้เคียงกับเฟอร์นิเจอร์ข้างเคียง เช่น ในภาพวาด มาทดแทนความสูงของเฟอร์นิเจอร์ และหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงมาอยู่ใกล้ๆ ติดกัน

7) สร้าง contrast
ผสมผสานเส้นตรงและเส้นโค้งเว้าเพื่อสร้างความ contrast ถ้าเฟอร์นิเจอร์เป็นแนวโมเดิร์นตรงๆ ลองหยิบเอาโต๊ะกาแฟแบบกลมๆ มาตัดกัน และถ้าเฟอร์นิเจอร์มีส่วนโค้ง ก็จับมิกซ์กับเฟอร์นิเจอร์ที่มีมุม

8) ออกแบบให้ง่ายเมื่อใช้งานจริง
วางโต๊ะกาแฟในตำแหน่งที่ทุกเก้าอี้เอื้อมถึงได้ โดยที่ขนาดของแต่ละเฟอร์นิเจอร์ใกล้เคียงกัน และถ้าเป็นที่นั่งสำหรับทำงาน อ่านหนังสือก็ควรที่จะทำให้มีแสงสว่างที่เพียงพอ โต๊ะกาแฟควรตั้งห่างจากโซฟาในระยะ 35-45 เซนติเมตร สำหรับพื้นที่วางเท้าด้วย

แค่ 8 วิธีง่ายๆแค่เราวางแผนก่อนจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เราก็จะได้ห้องแต่ละห้องดูสวยลงตัว เหมาะสมแก่การใช้งานได้จริง

ได้รู้ถึงหลักในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแล้ว อย่ารอช้า เรามาอ่านหัวข้อต่อไปกันต่อเลย

2. แยกพื้นที่ในบ้านให้เป็นสัดส่วน

คงรู้สึกแปลกไม่น้อยหากคุณกำลังนอนเล่นอยู่ในห้องรับแขก แต่กลับมีคนยืนทำอาหารเย็นอยู่ที่ด้านหลังโซฟาของคุณ การแบ่งห้องออกเป็นสัดส่วน จะช่วยลดความแออัดคับแคบให้ดูโปร่งโล่ง และสะดวกในการใช้สอย แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องก่อกำแพงขึ้นเพื่อกั้นห้องแต่อย่างใด เพียงแค่คุณเว้นช่องว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ของแต่ละส่วนให้มีพื้นที่กว้างพอที่จะให้ความรู้สึกแยกจากกัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้บ้านของคุณดูมีบริเวณเป็ดสัดเป็นส่วนแล้ว

3. เลือกโทนสีช่วยให้ดูสะอาดตา

ภาพรวม” ของสิ่งต่างๆ ในบ้านของเราจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับ “สีสัน” ที่เราเลือกใช้ในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของผนัง ฝ้าเพดาน หรือเฟอร์นิเจอร์ หากคุณคุมโทนสีอย่างลงตัวก็จะสามารถสร้าง “บรรยากาศ” ตามที่คุณอยากจะให้บ้านของคุณเป็นได้
ในการเลือกใช้สีเพื่อตกแต่งบ้านนั้น ก็มีตัวช่วยให้คุณเลือกใช้ในการเลือกโทนสีที่ดูดีเข้ากันได้ ด้วย “Colour Schemes” ตัวช่วยกลุ่มสีที่อยู่ด้วยกันแล้วสวยงาม โดยในการออกแบบสีที่ทำให้บ้านดูสะอาดตานั้น จะเลือกใช้โทนสีอ่อนหรือสีที่ให้ความรู้สึกเย็น เช่น สีขาว, สีเทา, สีครีม หรือสีฟ้า

4. จัดมุมส่วนตัว สำหรับช่วงเวลาพักผ่อน

หลังเสร็จกิจจากสิ่งที่ทำมาตลอดวัน แน่นอนว่าร่างกายของคุณจะต้องเหนื่อยเอามากๆ แต่ก่อนที่คุณจะจัดการอาบน้ำทำงานบ้านเสร็จแล้วเข้านอน คงจะดีไม่น้อยถ้ามีมุมส่วนตัวให้เอนกายลงพักผ่อน หรือจะใช้สำหรับปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อน ดูฟุตบอลยามค่ำคืน นั่งจิบ Whisky เบาๆ ซึ่งองค์ประกอบหลักสำหรับมุมพักผ่อนนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “โซฟา” นุ่มๆ ที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้โซฟายังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราให้กับบ้านของคุณด้วย

5. เพิ่มกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลาย

กลิ่นหอมที่ลอยมาตามอากาศเมื่อคุณเปิดประตูบ้าน จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับคุณและคนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมเยียนบ้านคุณในทุกๆ ครั้ง

นอกจากนี้ ความหอมยังเป็นการแสดงถึงความสะอาด และรสนิยมของเจ้าบ้านอีกด้วย โดยมีมากมายหลากหลายกลิ่นตามแต่ที่คุณชอบ

โดยสิ่งที่เหมาะสำหรับปรับอากาศบ้าน มี 3 แบบ ดังนี้

  • ก้านไม้หอมปรับอากาศ: นอกจากกลิ่นหอมที่จะปล่อยออกมาอย่างช้าๆ จากน้ำหอมที่ซึมผ่านทางกิ่งไม้แห้งแล้ว ยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ประดับบ้านที่แสดงถึงความ วินเทจได้อีกด้วย
  • เครื่องปล่อยไอน้ำอโรม่า: สามารถส่งกลิ่นหอมออกมาได้อย่างรวดเร็วด้วยอุปกรณ์พ่นไอน้ำ สามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้อัตโนมัติ แต่มีระยะที่ค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับการใช้ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น
  • เจลหอมปรับอากาศ: สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ให้กลิ่นหอมยาวนานแต่ระยะค่อนข้างจำกัด อีกทั้งดีไซน์ยังไม่เหมาะสมกับการตกแต่งบ้าน จึงแนะนำให้เอาไว้ใช้ภายในห้องน้ำ หรือห้องอาบน้ำ

6. ของตกแต่งไม่เยอะจนเกินไป

ของประดับบ้านจะช่วยดึงดูดจุดสนใจทางสายตา แต่ว่าถ้ามีเยอะเกินไปก็จะมีจุดดึงดูสายตามากเกินไป ไม่รู้จะมองไปที่ไหนดี จนกลายเป็นความรู้สึกรกบ้านเสียเปล่า แนะนำว่าแต่ละห้องนั้นควรมี Statement Piece ที่โดดเด่นเพียงชิ้นเดียวดึงดูดสายตา และสร้างเอกลักษณ์ให้กับห้องนั้นๆ จะเป็นการดีที่สุด

7. ห้องนอนสำคัญที่สุด

สำหรับสถานที่ที่คุณใช้เวลามากที่สุดภายในบ้าน สำหรับเอนกายนอนหลับยามค่ำคืน บรรยากาศโดยรอบของห้องจึงควรที่จะปลอดโปร่ง โล่งสบาย ชวนให้อยากหลับไหลไปตลอดคืน และตื่นขึ้นมาอย่างสดใส แน่นอนว่าในห้องนอน ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ “เตียง” เพราะฉะนั้น โดยรอบเตียงไม่ควรที่จะมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นวางรอบๆ จนทำให้รู้สึกรกตา แค่มีโต๊ะข้างเตียง หรือเก้าอี้เล็กๆ สักตัวไว้สำหรับนั่งพักผ่อนก่อนเข้านอน จะช่วยให้เตียงดูโดดเด่น และองค์ประกอบของห้องดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

8. อย่ามองข้ามห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นอีก Checkpoint สำคัญในบ้านที่จะบ่งบอกถึงความสะอาด และความเป็นตัวคุณ ใน 1 วันคุณต้องใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำอย่างน้อย 3-5 รอบ คงจะดีไม่น้อยหากคุณได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาด และดูดี เป็นความสุขเล็กๆ ที่จะช่วยผ่อนคลายคุณได้เป็นอย่างดี โดยอาจใช้แค่กระถางต้นไม่สักต้นหนึ่งวางประดับไว้ที่มุมห้อง สีเขียวของต้นไม้จะตัดกับสีของผนังห้องน้ำทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมามากเลยทีเดียว

Cr. https://www.maxxmafilm.com/not-out-of-trend-idea/

ARE YOU INTERESTED

IT'S TIME TO DISCOVER

THE BUILDING

BUILDING LOCATION

Motivation can take you far, but it can take you even further if you first find your vision. Your vision will motivate and guide you on

ADDRESS:

Logan Barker, 865 Oak Boulevard, Elk Grove, Vermont 95184
Phone:

012-345-6789

E-mail:

email.support@maisonco.com

CONTACT AGENT

William Jacobs

CERTIFIED AGENT

ENQUIRE

©trangvillage. All rights reserved.